ข้อมูลตำบลทุ่งเสลี่ยม

ที่ว่าการอำเภอทุ่งเสลี่ยม
ข้อมูลพื้นฐานตำบลทุ่งเสลี่ยม
ประวัติและความเป็นมาของตำบลทุ่งเสลี่ยม
เมื่อปี พ.. 2428  ชาวเมืองลำปาง   จากเขตอำเภอเถิน ได้พาครอบครัว
ประมาณ 300  คน  ลงมาหาเสบียง และตั้งถิ่นฐานจนกลายเป็นชุมชนใหญ่  เมื่ออพยพเข้ามาอยู่ใหม่ๆ  ทุ่งเสลี่ยมเป็นป่าดงดิบทึบ  ราษฎรอพยพ ซึ่งมีอาชีพในการล่าสัตว์ และเอาเนื้อและหนังไปขายและแลกข้าว ที่บ้านปากคลองช้าง  ปากคลองแห้ง   ในท้องที่ตำบลเมืองบางขลัง  อำเภอวังไม้ขอน  จังหวัดสวรรคโลก     
ปัจจุบันเป็นบ้านทุ่งเสลี่ยม หมู่ที่ 3   ตำบลทุ่งเสลี่ยม และเป็นที่ตั้งวัดทุ่งเสลี่ยม
ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อศิลา
                      เดิมตำบลทุ่งเสลี่ยมเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอสวรรคโลก  โดยขึ้นอยู่กับหมู่ที่ 3 ตำบลนาทุ่ง  ต่อมาปี พ..2479 ได้มีการแยกมาจากตำบลนาทุ่ง  ตั้งเป็นตำบลทุ่งเสลี่ยม   28  ตุลาคม 2479 ประกาศกระทรวงมหาดไทย  ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2479  แยกหมู่บ้านรวม 11 หมู่บ้าน  ตำบลนาทุ่ง  อำเภอวังไม้ขอน  จังหวัดสวรรคโลก  ตั้งเป็นตำบลทุ่งเสลี่ยม   อำเภอวังไม้ขอน  จังหวัดสวรรคโลก (ราชกิจจานุเบกษา  เล่ม 53    หน้า 2012     ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2479)
                    พ.ศ.2482  จังหวัดสวรรคโลก ได้เปลี่ยนเป็นจังหวัดสุโขทัย  อำเภอวังไม้ขอน ได้เปลี่ยนเป็นอำเภอสวรรคโลก  จังหวัดสุโขทัย
                    11 พฤศจิกายน 2484  ประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่  11 พฤศจิกายน 2484  แยกหมู่ที่ 6,7,8,9,10 และหมู่ที่ 11  ตำบลทุ่งเสลี่ยม อำเภอสวรรคโลก  จังหวัดสุโขทัย จัดตั้งตำบลขึ้นอีกตำบลหนึ่ง  ขนานนามว่า ตำบลกลางดง  จัดเป็น 6 หมู่บ้าน  (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 49 หน้า 4063  ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2484)
19 พฤษภาคม 2500  ประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่  19 พฤษภาคม  2500  ยกฐานะตำบลทุ่งเสลี่ยม  อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย  ขึ้นเป็นกิ่งอำเภอทุ่งเสลี่ยม ให้ขึ้นอยู่ในความปกครองของอำเภอสวรรคโลก  จังหวัดสุโขทัย            และมีเขตการปกครอง  รวม 2  ตำบล คือ       1. ตำบลทุ่งเสลี่ยม    2.ตำบลกลางดง (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 74  ตอนที่ 51  หน้า 1281  ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2500)

สภาพทั่วไปของตำบล
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มเชิงเขา พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินร่วนปนทรายใช้ทำ
นา มีเนื้อที่ทั้งหมด 32,500 ไร่ หรือประมาณ  52  ตารางกิโลเมตร
-8-
อาณาเขตตำบล
ทิศเหนือ         ติดต่อ ตำบลไทยชนะศึก    ตำบลกลางดง
ทิศใต้              ติดต่อ ตำบลนาขุนไกร    อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย
ทิศตะวันออก  ติดต่อ ตำบลไทยชนะศึก   ตำบลบ้านใหม่ไชยมงคล
ทิศตะวันตก     ติดต่อ ตำบลกลางดง
จำนวนประชากรของตำบล
                        จำนวนประชากรทั้งสิ้น 12,083 คน เป็นชาย 5,950 คน เป็นหญิง 6,133 คน
ข้อมูลอาชีพของตำบล
อาชีพหลัก รับจ้างทั่วไป เลี้ยงสัตว์
อาชีพเสริม หัตถกรรมพื้นบ้าน
ข้อมูลสถานที่สำคัญของตำบล
1.วัดทุ่งเสลี่ยม  มณฑปที่ประดิษฐานหลวงพ่อศิลา
                         2.วัดเหมืองนา   โรงเรียนพระปริยัติธรรม
3.วัดพิพัฒน์มงคล   วัดพัฒนาตัวอย่าง
4.วัดวังธาร  ประเพณีบวชนาคแห่ช้าง
5.ที่ว่าการอำเภอทุ่งเสลี่ยม
6.สำนักงานเทศบาลตำบลทุ่งเสลี่ยม
7.ที่ทำการ อบต.ทุ่งเสลี่ยม
8.โรงพยาบาลทุ่งเสลี่ยม
9.สถานีตำรวจภูธรอำเภอทุ่งเสลี่ยม

เหตุการณ์สำคัญ
เมื่อเวลา 14.00 น. โดยประมาณ   ของวันพฤหัสบดีที่  16 กุมภาพันธ์
พุทธศักราช  2521  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ   พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัคราชกุมารี   เสด็จเยี่ยมราษฎร    ณ โรงเรียนทุ่งเสลี่ยมชนูปถัมภ์  อำเภอทุ่งเสลี่ยม โดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง    ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้ใหญ่ลั่น  สมหารวงศ์  ผู้ใหญ่เสาร์  อุตบัววงศ์และกำนัน   ปริสาวงศ์ ซึ่งทูลเกล้าฯ  ถวายฎีกาเรื่อง  การสร้างถนนสายทุ่งเสลี่ยม-สวรรคโลก  และโครงการอ่างเก็บน้ำแม่มอก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงรับสั่งว่า  “ให้สร้างอ่างเก็บน้ำก่อนที่จะสร้างถนน”

ตำบลทุ่งเสลี่ยมอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอทุ่งเสลี่ยม ซึ่งประกอบ ด้วย  
13 หมู่บ้าน   จำนวนหมู่บ้านในเขต  อบต. เต็มทั้งหมู่บ้าน  10  หมู่     และอยู่ในเขตเทศบาล* 3 หมู่บ้าน  ได้แก่
            หมู่ที่ 1             บ้านเหมืองนา*
            หมู่ที่ 2             บ้านท่าชุม
            หมู่ที่ 3             บ้านทุ่งเสลี่ยม
            หมู่ที่ 4             บ้านวังธาร
            หมู่ที่ 5             บ้านเทพพนม
            หมู่ที่ 6             บ้านท่าเดื่อ
            หมู่ที่ 7             บ้านเด่นดีหมี
            หมู่ที่ 8             บ้านเหมืองนา*
            หมู่ที่ 9             บ้านนครท่าชุม*
            หมู่ที่ 10           บ้านน้ำดิบ
            หมู่ที่ 11           บ้านรุกขมูล
            หมู่ที่ 12           บ้านโซกม่วง
            หมู่ที่ 13           บ้านภูแก้ว


                                    หมู่บ้านของ ตำบลทุ่งเสลี่ยม     
บ้านเหมืองนา  หมู่ 1
 ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน
            “เหมืองนา  มาจากการทำฝายทดน้ำและทำลำเหมืองส่งน้ำไปยังนาของตนเอง จึงได้เกิดเป็นชื่อหมู่บ้าน บ้านเหมืองนา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา   
            บ้านเหมืองนา เกิดจากนายแสน อุดม ได้มีแนวความคิดที่จะตั้งหมู่บ้านขึ้น ซึ่งเดิมนายแสน  อุดม เป็นชาวบ้านแม่วะ อ. เถิน  จ. ลำปาง เมื่อมาพบพื้นที่ที่บ้านเหมืองนาจึงเห็นว่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การสร้างหมู่บ้าน จึงได้กลับไปยังบ้านแม่วะและได้ชักชวนชาวบ้านมาตั้งรกรากอยู่ที่บ้านเหมืองนา ครั้งแรกมาอาศัยอยู่บริเวณทุ่งปู่พื้น ต่อมาได้เห็นว่าบ้านเหมืองนาขาดแคลนน้ำในการทำนาจึงได้พากันไปสร้างฝายทดน้ำที่บ้านหัวฝาย และทำเหมืองส่งน้ำมายังนาของตน   ต่อมาได้ขยายหมู่บ้านและได้สร้างวัดขึ้น ได้ชื่อว่า วัดเหมืองนา เดิมตั้งอยู่ที่บ้านพักครูในปัจจุบัน พ.ศ. 2463 ท่านได้สร้างศาลาที่พักสงฆ์ไว้ให้ เพื่อให้พระสงฆ์ที่เดินสัญจรได้พักอาศัย และเป็นที่ทำบุญของชาวบ้าน ปี 2470 ชาวบ้านได้สร้างกุฏิชั่วคราวและได้นิมนต์พระพรหมเสน จากอำเภอเถิน มาเป็นเจ้าอาวาส  ปี 2476 พระพรหมเสน ลาสิกขาบท พระกันทาเป็นเจ้าอาวาสแทน ปี 2478 คณะศรัทธาได้ย้ายวัดมาอยู่ในบริเวณวัดเหมืองนาปัจจุบัน ได้ทำการเปิดสอนโรงเรียนนักธรรมขึ้น และในปีเดียวกัน พระกันทาได้มรณภาพ พระบุญชู ธมฺมจาโรได้เป็นเจ้าอาวาสแทน และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะหมวด ชื่อหมวดบุญชู ท่านได้มรณภาพ ปี 2486 และพระจันทร์ จนฺทโร เป็นเจ้าอาวาสแทน ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งเสลี่ยม และเป็นฐานานุกรม นามว่า พระใบฏีกาจันทร์ ท่านได้ลาสิกขาบท  ในปี 2493 ในปีเดียวกัน เจ้าคณะจังหวัดได้แต่งตั้งพระแก้ว โชติโก (ปัจจุบันคือพระครูรัตนโชติคุณ) เป็นเจ้าอาวาส ปี 2504 วัดเหมืองนารับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์  พ.ศ. 2504  และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบล และเจ้าคณะอำเภอตามลำดับ วัดเหมืองนาเป็นวัดเก่าแก่ที่ได้สั่งสอนสร้างคนให้เป็นคน มีหน้าที่การงานมากมาย เนื่องจากพระครูรัตนโชติคุณ มีนโยบายที่ชัดเจนแน่วแน่ในการให้การศึกษาแก่ชุมชน ซึ่งมากกว่างบประมาณที่ได้รับจึงต้องเสียสละจากหลายฝ่ายในการส่งเสริมการศึกษาศาสนา เพื่อให้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา เช่น ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เปิดตั้งแต่ พ.ศ. 2529  โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ศูนย์อบรมเด็ก
ก่อนเกณฑ์ในวัด โรงเรียนนักธรรม (แผนกธรรม) เป็นต้น
ผู้ให้ข้อมูล   นายเจียน  กันทะบุตร     วันที่   7  เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549       


หมู่ 2  บ้านท่าชุม
ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน
                เดิมที่บ้านท่าชุม มีชื่อว่า บ้านค่าชุม เนื่องจากสมัยก่อนมี  ต้นมะค่า  มากมายในบริเวณบ้านนี้    จึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่าชื่อ บ้านค่าชุม แล้วเพี้ยนมาเป็นบ้านท่าชุม   บ้านท่าชุม เริ่มก่อตั้งใน ปี พ.ศ.2460 หรือประมาณ 89 ปีมาแล้ว มีวัดท่าชุมเป็นศูนย์รวมใจ  ในเวลาต่อมาเกิดเป็นชุมชนที่อาศัยหนาแน่น  แล้วจึงเป็นเหตุให้ เพี้ยนจาก บ้านค่าชุม เป็น บ้านท่าชุม
ผู้ให้ข้อมูล      นายสมพงษ์   หริ่งเจริญ          วันที่   7  เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549
  
หมู่ 3  บ้านทุ่งเสลี่ยม
ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน
ท่านหนึ่งได้รวบรวมเรียบเรียงประวัติความเป็นมาของทุ่งเสลี่ยม โดยได้ข้อ
สันนิษฐานไว้เป็น 2 ลักษณะ  คือ นายเรียบ  เถินบุรินทร์   ข้าราชการบำนาญ  สปอ. ทุ่งเสลี่ยม
            1.ทุ่งนามี ต้นสะเดา อยู่มาก (ต้นสะเดา ภาษาท้องถิ่น เรียกว่า ต้นสะเลี่ยม) จึงเป็นที่มาของหมู่บ้าน ทุ่งเสลี่ยม คือ ทุ่งสะเดานั่นเอง
            2. ทุ่งเสลี่ยม มาจากคำว่า สระสี่เหลี่ยมเพราะมีหลักฐานปรากฏอยู่ในหมู่บ้านทุ่งเสลี่ยมตามที่ผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าให้ฟังว่า สระสี่เหลี่ยม เดิมเรียกกันว่าบ้านสะเหลี่ยมเฉยๆ ต่อมา มีคน อพยพเข้ามาอยู่และได้ทำการหักล้างถางพงป่า ทำนา ทำไร่  ทำสวนมองดูเวิ้งว้าง เลยเรียกว่า  บ้านทุ่งสะเหลี่ยม  และบ้านทุ่งเสลี่ยม  ตามลำดับ 
             เดิมย้ายมาจากคนบ้านน้ำดิบอำเภอเถิน สร้างเป็นชุมชนและร่วมกันสร้างวัดทุ่งเสลี่ยม และเมื่อปี พ.ศ. 2472 ชาวบ้านที่มีอาชีพในการเก็บมูลค้างคาวในถ้ำเจ้าราม (ปัจจุบันถ้ำเจ้ารามนี้อยู่ในเขตของอำเภอบ้านด่านลานหอย)  เพื่อนำไปขาย ทำดินประสิว และ ปุ๋ย พวกเขาได้พบพระพุทธรูปศิลานาคปรก   จึงนำความมาเล่าให้เจ้าอาวาสวัดทุ่งเสลี่ยม   คือหลวงพ่ออภัย และหารือกับผู้ใหญ่บ้านจะนำพระพุทธรูปมาประดิษฐาน ณ วัดทุ่งเสลี่ยม        ต่อมาในปีเดียวกัน ครูบาก๋วน เจ้าอาวาสวัดแม่ปะหลวง ตำบลแม่ปะ ครูบาต๋า วัดอุดมลอง   อำเภอเถิน หลวงพ่ออภัยร่วมกับคณะชาวบ้านเป็นจำนวนมาก เดินทางไปถ้ำเจ้ารามทำพิธีบวงสรวงตั้งจิตอธิษฐาน ร่วมกันอัญเชิญพระศิลาออกจากถ้ำเพื่อทำการสักการะบูชาและตั้งใจจะอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ จังหวัดลำปางแต่ตกลงกันไม่ได้คณะอัญเชิญได้เดินทางด้วยความลำบาก ผ่านหนองปลาซิว บ้านห้วยทราย  หนองส้มป่อย   บ้านน้ำดิบ  จนถึงวัดทุ่งเสลี่ยม  เกิดปาฏิหาริย์ท้องฟ้าที่แจ่มใส แสงแดดอันร้อนแรง  ถูกบดบังด้วยเมฆฝน  และเกิดฝนตกเป็นเวลานาน  เมื่อฝนหยุดตกก็ได้มีฝูงค้างคาวขนาดใหญ่หลายล้านตัว บินวนเวียนเหนือบริเวณวัด บินรอบอุโบสถ 3 รอบ ชาวบ้านเห็นปาฏิหาริย์   จึงพากันขอร้องคณะที่นำพระศิลาให้ประดิษฐานพระศิลา ณ อุโบสถ วัดทุ่งเสลี่ยม เจ้าอาวาสวัดทุ่งเสลี่ยมจึงได้ปรึกษากับเจ้าคณะอำเภอสวรรคโลก ที่สุดจึงได้นำพระศิลาประดิษฐาน  ณ วัดทุ่งเสลี่ยม นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ผู้ให้ข้อมูล     นายพิทักษ์ชัย  เทพวงษ์ , นายเจียน  กันทะบุตร  , นางสาวทัศนีย์  สมพันธ์    
                       วันที่ 9 เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549



หมู่ 4  บ้านวังธาร
ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน
                แต่ก่อนบริเวณที่ตั้งบ้านนี้ มีป่าไม้ยางมากมาย เดิมชื่อบ้านดงยาง มีผู้ใหญ่บ้านคนแรกคือนายเป็ง  สุรินทร์คำ เมื่อได้แยกหมู่บ้านจากหมู่ 3 บ้านทุ่งเสลี่ยม เป็นหมู่ 4 ชื่อบ้านโค้งวังธารและเปลี่ยนเป็นบ้านวังธารในปัจจุบัน
เนื้อที่ของหมู่บ้านนี้โค้งไปตามลำน้ำ แม่น้ำแม่มอก  ก็เลยชื่อ บ้านโค้งวังธาร   ต่อมาเปลี่ยนเป็นวังธาร
ผู้ให้ข้อมูล     นายเรือน  เครืออุ่นเรือน , นางสาวทัศนีย์   สมพันธ์                        
                      วันที่ 9 เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549

หมู่ 5  บ้านเทพพนม
ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน
               เดิมชื่อ บ้านท่าช้าง ยังไม่มีวัด เมื่อเป็นหมู่บ้านชาวบ้านช่วยกันสร้างวัดเรียกว่า วัดแพะ (คำว่าแพะ ภาษา พื้นบ้าน  แพะ  แปลว่า ป่า )  หรือวัดป่า   เมื่อจะตั้งชื่อวัดจึงมองดูทำเลที่ตั้งพร้อมหาสัญลักษณ์ พบว่าในบริเวณวัดมีศาลาหลังเก่าที่มีรูปเทพพนมอยู่โดยรอบ จึงใช้สัญลักษณ์เทพพนมเป็นชื่อวัด เรียกว่า วัดเทพพนม  และเมื่อแยกหมู่บ้านจึงตั้งชื่อหมู่บ้านตามชื่อวัดว่า บ้านเทพพนม
             บ้านเทพพนมเริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2475 หรือประมาณ 73 ปี เดิมชื่อหมู่บ้านท่าช้างเพราะมีช้างป่ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และมีอาหารอุดมสมบูรณ์ ป่าไม้สมบูรณ์ บริเวณนั้นมีศาลาเก่าอยู่หลังหนึ่งแต่ไม่มีพระประจำวัด ต่อมาพระธรรมยุติเดินทางมาจากเถิน รวบรวมชาวบ้านช่วยกันสร้างวัดเรียกว่าวัดแพะ     เมื่อสร้างเสร็จแล้วเห็นควรตั้งชื่อวัดใหม่ พระท่านมองไปที่ศาลาหลังเก่าเห็นมีรูปเทพพนมอยู่โดยรอบ  จึงตั้งชื่อวัดว่า วัดเทพพนม  รวมถึงชื่อหมู่บ้านด้วย     คนกลุ่มแรกที่มาตั้งหมู่บ้านคือ นายปี๋  อินทะพรรณ  นายแก้วมูล  ราชอุปนันท์ นายปัน  ปันหมู    นายซ่าน สืบบัวบาน   นายก้อนแก้ว วงค์คำลือ  ล้วนแต่อพยพมาจากจังหวัดลำปาง ในพื้นที่บ้านเถิน  ตำบลเวียง  อำเภอเถิน   บ้านอุ่มลอง  บ้านแม่ปะ  บ้านดอนไชย บ้านหนองเชียงลาน เมืองลี้ และบ้านนาโป่ง สาเหตุที่ย้ายเพราะไม่มีที่ดินทำกิน และบริเวณใหม่มีความอุดมสมบูรณ์  เป็นที่มีป่าไม้นานาพันธุ์   และไม่มีเจ้าของจึงจับจองได้ง่ายไม่ต้องแย่งกัน ประกอบอาชีพด้วยการทำไร่ ทำนา  และเลี้ยงสัตว์เพื่อใช้งาน  การสาธารณูปโภคในหมู่บ้านเริ่มเข้ามาเมื่อปี พ.ศ. 2550
ผู้ให้ข้อมูล      นายมังกร    รอดบุญฤทธิ์               วันที่   7  เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549

หมู่ 6  บ้านท่าเดื่อ
ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน
                ในหมู่บ้านมีต้นไม้ คือ  ต้นมะเดื่อ  เป็นจำนวนมาก จึง  ชื่อ ท่าเดื่อมีผู้อพยพ
เข้ามาอยู่มากขึ้น  มีคนเก่าแก่มาตั้งบ้านกันอยู่ 10-20 หลังคาเรือน และอยู่กันอย่างสงบสุข ต่อมามีลูกหลานมากขึ้น   เป็นชุมชนใหญ่จึงได้ตั้งเป็นหมู่บ้าน ชื่อ บ้านท่าเดื่อ  พื้นเพเดิมคนบ้านท่าเดื่อ  มาจากอำเภอเถิน  จ. ลำปาง  จึงมีวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตแบบชาวเมือง ชาวล้านนา   คนในหมู่บ้านได้ร่วมกันสร้างวัดท่าเดื่อ เป็นที่ทำบุญ
ผู้ให้ข้อมูล      นายเสาร์คำ  คำมูลเปี้ย        วันที่  7  เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549

หมู่ 7  บ้านเด่นดีหมี
ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน       
                บ้านเด่นดีหมี นั้น นำคำที่มีความหมายตามสภาพพื้นที่ บริเวณที่ตั้งหมู่บ้านมาผสมกัน  คำว่า เด่นดีหมี มาจากคำสองคำ คือ 1.เด่น หมายถึง ที่ราบ  หรือ บริเวณที่ราบใกล้เขา ซึ่งบริเวณหมู่บ้านมีภูเขาทางด้านทิศตะวันออก   ดีหมี  หมายถึง  ชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่งมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร  ซึ่งเดิมนั้นมีมากในบริเวณหมู่บ้าน ปัจจุบันไม่มีให้เห็นแล้ว  เมื่อนำคำมารวมกันจึงเป็น เด่นดีหมี หมายถึงที่ราบที่มีไม้ดีหมีซึ่งเป็นยาสมุนไพร  เป็นจำนวนมาก
เดิมทีหมู่บ้าน เด่นดีหมี นี้ รวมอยู่กับ บ้านวังธาร  ซึ่งทั้งสองหมู่บ้านครั้งเมื่อรวมกันนี้มีชื่อว่า บ้านดงยาง   ต่อมาหมู่ที่ 4 เปลี่ยนชื่อ เป็นบ้านวังธาร กำนันประกฤติ สุรินทร์คำ ในขณะนั้นจึงเปลี่ยนชื่อ บ้านดงยาง เป็นบ้านเด่นดีหมี และใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน สำหรับหมู่ 7 บ้านเด่นดีหมี  มีผู้ใหญ่บ้านรวม  5 คน คือ นายสุข เงินคำ ,นายเดช  เจี๊ยะทา, นายรอด  วงค์ปัญญา, นายทองหล่อ  เปรมใจ, นายกุย  เงินคำ
ผู้ให้ข้อมูล        นายเดช  เจี๊ยะทา , นางสาวทัศนีย์  สมพันธ์  
วันที่ 7  เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549


หมู่ 8  บ้านสันป่าตึง
ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน
 เนื่องจากพื้นที่ตั้งของหมู่บ้านเดิมเป็น ป่าไม้ควง หรือ ไม้ตึง(เป็นภาษาท้องถิ่น) เป็นพันธุ์ที่มีลำต้นใหญ่ ใบไม้มีขนาดใหญ่ เท่ากับใบสัก มีความทนทานดี คนท้องถิ่นนิยมนำมา ใช้ทำหลังคา แทนหญ้าคา  เป็นส่วนมาก   จึงตั้งชื่อว่าบ้าน สันป่าตึง เพื่อให้ได้ชื่อสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ ที่อุดมด้วยต้นไม้ตึง
              หมู่บ้านสันป่าตึง   ก่อตั้งขึ้น เมื่อประมาณ พ.ศ. พ.ศ.2510  ในเขตหมู่ที่ 8   ตำบลทุ่งเสลี่ยม อำเภอทุ่งเสลี่ยม  เดิมมีผู้คนปลูกบ้านเรือนอยู่ตามหัวไร่ปลายนา และตามที่ไร่ที่สวนของตนเอง มีประมาณ 9-10 หลังคาเรือน          ต่อมาเมื่อทางราชการได้ตัดถนนสาย ทุ่งเสลี่ยม สวรรคโลก (ถนนสายใหม่)     และทางโรงไฟฟ้าได้ขยายเขตติดตั้งไฟฟ้า ถนนสายใหม่ และหมู่บ้านสันป่าตึง      ชาวบ้านที่มีที่ดินอยู่บริเวณนี้ และที่สนใจก็ได้มาซื้อที่ดินบริเวณนี้ สร้างบ้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ 
จนถึงทุกวันนี้ มีประชาชนอยู่อาศัยกว่า 100  หลังคาเรือน    ภายในหมู่บ้านมีถนน  ตรอก ซอกซอย  ตามความเหมาะสม    ในหมู่บ้านมีสำนักสงฆ์สันป่าตึงที่เป็นสาขาของวัดเหมืองนา  มีพระภิกษุ  สามเณร จำพรรษา และชาวบ้านได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
ผู้ให้ข้อมูล       นายลวด   เย็นสำราญ , นายเจียน  กันทะบุตร                      
วันที่   4  เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549

หมู่ 9  บ้านนครท่าชุม
ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน
               บ้านนครท่าชุม นี้ แยกมาจากหมู่บ้านท่าชุม ซึ่งบ้านท่าชุม เดิมมีความหมายมาจากต้นไม้ สมัยก่อนมีต้นมะค่ามากมายในบริเวณวัดท่าชุม ในปัจจุบัน เกิดเป็นชุมชนที่อาศัยแล้วจึงเพี้ยนจากค่าชุม เป็น ท่าชุม    เมื่อได้แยกเป็นหมู่บ้านใหม่จึงเพิ่มคำว่า นคร ขึ้นมา จึงเป็นชื่อเรียก หมู่บ้านนครท่าชุม
             เป็นหมู่บ้านแยกมาจากหมู่บ้านท่าชุมหมู่ที่ 2   เป็นบ้านนครท่าชุม หมู่ 8  มีผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบันคือนายบุญช่วย  สุภามงคล 
ผู้ให้ข้อมูล      นายเจียน  กันทะบุตร           วันที่   4  เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549


หมู่ 10  บ้านน้ำดิบ
ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน
            ชื่อบ้านน้ำดิบนี้ตั้งชื่อตามคลองใหญ่ที่มีอยู่ในบ้านนี้ คือ เมื่อก่อนมี  คลองน้ำดิบใหญ่ ไหลตลอดปี  จึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า บ้านน้ำดิบ  ตามชื่อคลองน้ำดิบ
เมื่อปี พ.ศ. 2519    มีชาวบ้านอพยพมาจากบ้านวังทองแดง  มาตั้งรกรากทำไร่เผาถ่าน มีเพียงไม่กี่ครอบครัว ต่อมามีชาวบ้านมาจากหลายจังหวัด มาจากภาคอีสานก็มี คนพื้นเมืองคนเหนือที่มาจากเถิน มารวมกันจึงตั้งหมู่บ้าน เรียกว่า บ้านน้ำดิบ  มีโรงเรียนและมีสำนักสงฆ์
ผู้ให้ข้อมูล      นายวิถี   ก๊กศรี          วันที่   9  เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549

หมู่ 11   บ้านรุกมูล
ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน
บ้านรุกขมูล  เป็นหมู่บ้านที่มีพื้นที่ป่าที่สวยงาม จึงได้ชื่อว่า รุกขมูล  ซึ่งมีคำแปล มาจากคำว่า รุกข  แปลว่า ต้นไม้    ส่วนคำว่า มูล  แปลว่า พื้น , ฐาน หรือใต้ เมื่อรวมกันแล้วแปลว่า ใต้ต้นไม้  หมายความว่า พื้นที่ของหมู่บ้านนี้อยู่ในร่มไม้ ที่มีร่มเงา ร่มรื่น เป็นสถานที่ที่พระสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกาใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม ปฏิบัติวิปัสสนา จึงเป็นชื่อที่เป็นมงคลอย่างยิ่ง    แต่เดิม บ้านรุกขมูล อยู่ในหมู่ 9 นครท่าชุมหรือบ้านท่าชุม ตำบลทุ่งเสลี่ยมมาก่อน และได้แยกหมู่บ้านเมื่อปี พ.ศ. 2540    และมีชื่อหมู่บ้านใหม่ว่า บ้านรุกขมูล มีสำนักสงฆ์รุกขมูลหนึ่งแห่ง     ผู้ใหญ่บ้านคือ นายชุ่ม  คำมูลเปี้ย
ผู้ให้ข้อมูล  นายถวิล  วงค์ปัน ,นายเจียน  กันทะบุตร       วันที่ 1  เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549

หมู่ 12  บ้านโซกม่วง
ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน
                ตรงกลางหมู่บ้านมีต้นมะม่วงใหญ่จำนวนหนึ่ง ข้าง ๆ มีร่องน้ำลึกอันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำ ชาวบ้านเรียกว่า โสก เป็นภาษาอีสาน และเรียกชื่อหมู่บ้านว่า โสกม่วง ต่อมาทางการเขียนเป็น โซกม่วง”               เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2525    มีชาวอีสานย้ายมาจากอำเภอสวรรคโลก  ซึ่งแต่เดิมเป็นชาวอีสานแต่กำเนิดได้มาอาศัยอยู่ประมาณ 3-4 ครอบครัว   ต่อมาได้พาญาติพี่น้องย้ายมาอยู่เป็นจำนวนมาก ในปี พ.ศ. 2545    มีจำนวน 300 ครอบครัว  จึงได้ขอตั้งหมู่บ้านโดยแยกจากบ้านวังธาร หมู่ 4 ตำบลทุ่งเสลี่ยม ปัจจุบัน นายโกสุม  พระวิชัย เป็นผู้ใหญ่บ้าน
ผู้ให้ข้อมูล      นายสมควร  เมืองแมน       วันที่   4  เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549

หมู่ 13  บ้านภูแก้ว
ความหมาย / ที่มาของหมู่บ้าน / ประวัติหมู่บ้าน
                ภูแก้ว มีความหมาย มาจากภูเขาน้อยซึ่งในอดีตคนเก่าแก่ได้เรียกกัน เพราะถ้าถึงวันสำคัญทางศาสนาจะมีแสงขึ้นจากเขาแห่งนี้    จึงเป็นที่มาของหมู่บ้านภูแก้ว   ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายที่ดี  คำว่า  ภู คือ ภูเขา      คำว่า  แก้ว  คือ แสงที่ส่องมาในวันพระ  เป็นประกายอย่างกับแก้ว จึงได้นำมาตั้งเป็นชื่อของหมู่บ้าน ว่า บ้านภูแก้ว  มีวัดป่าชนะสงคราม (บ้านภูแก้ว) เป็นสถานที่รวมใจและทำบุญร่วมกัน           เดิมบ้านภูแก้วเคยเป็นหมู่ 12 บ้านโซกม่วง ต่อมาได้แยกเป็นหมู่บ้านในปี พ.ศ. 2545 เป็นหมู่ 13 บ้านภูแก้ว โดยทิศเหนือมีอาณาเขตติดต่อวังธาร และเด่นดีหมี ทิศใต้ติดบ้านโซกม่วง ทิศตะวันออกติดโซกม่วง   ทิศตะวันตกติดศรีเสลี่ยมและโปร่งค่าง ปัจจุบันมีนายนิกร  สมพรมมา เป็นผู้ใหญ่บ้าน 
ผู้ให้ข้อมูล      นายประจักษ์  เถื่อนแอ่น      วันที่   6  เดือน สิงหาคม  พ.ศ. 2549


                                                                

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังสื่อ กศน.